Information
-
Document No.
-
Audit Title
-
Client / Site
-
Conducted on
-
Prepared by
-
Location
-
Personnel
1. พื้นที่จัดเก็บสินค้ารอคืน Vendor
-
ทุกกล่องต้องติดหมายเลข Charge Back ที่ถูกต้องอย่างชัดเจน <br>Note: กรณีสินค้า Sumsung ต้องระบุหมายเลข SN / IMEI / และ Defect บน Charge Back ให้ครบถ้วน
2. รายการ และจำนวน รวมถึง On Hand ของสินค้าในห้องเคลม
-
รหัส, รายการ และจำนวนสินค้ารอคืนที่มีอยู่ ต้องเท่ากับรายการสินค้าใน Return To Vendor Audit Report (Outstanding)<br>
3. Outstanding RN เกินกว่า 37 วัน
-
ต้องไม่มี Outstanding RN เกินกว่า 37 วัน โดยดูจาก Return to Supplier (SL) และ Return To Vendor Audit Report (Rams)<br>Note: ห้ามมิให้สาขายกเลิกเอกสารการทำคืนและทำเอกสารขึ้นใหม่ หรือมีเจตนาต่ออายุการส่งคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เพื่อหลีกเลี่ยง Outstanding เกิน 37 วัน โดยเด็ดขาด<br> <br>
4. การทำลายสินค้า (Stock Waste)
-
4.1 ทำการ Complete (Transmitted to H/O) เอกสารยอดสูญเสียของสินค้า "Waste" ภายในวันที่ทำลายสินค้า พร้อมจัดเก็บเอกสารไว้อย่างครบถ้วน (Temp save & Complete) ตาม Docket No. (หากเอกสารสูญหาย และตรวจสอบไม่ได้ว่าเป็น process ใด ให้หักคะแนนแผนก Claim)<br> Note: 1. ต้องระบุหมายเหตุ "ทำลายสินค้า" และเหตุผลให้สอดคล้องกัน (เหตุผลการทำลายสินค้าให้ใช้ Code 201-211 เท่านั้น)<br> 2.ข้อมูลในฉบับ Temp save และฉบับ Complete ถูกต้องตรงกัน <br> 3.หากมีการ Cancel การทำลายสินค้า ต้องเก็บเอกสารฉบับ Temp Save. ทุกครั้ง <br> 4.ตรวจหมายเลข Docket No. จากเอกสาร Stock Waste List Report จากระบบ <br>
-
4.2 มีลายเซ็น TM แผนก และ LPS Code อนุมัติการทำลายสินค้าอย่างครบถ้วน
-
4.3 รายการ และจำนวนสินค้าในภาพถ่าย จะต้องตรงกับ เอกสารยอดสูญเสียของสินค้า "Waste" รวมทั้งต้องไม่นำสินค้าที่เหลือแต่ Packaging มาทำลาย<br> Note: 1. คีย์ทำลายถูก Item และนำสินค้าออกจากกล่องสินค้าทั้งก่อน และหลังทำลาย <br> 2. สินค้าที่ถูกทำลายต้องชัดเจนสามารถตรวจนับได้,ต้องไม่วางรวมกันเป็นกอง <br>
-
4.4 ภาพถ่ายสินค้าถูกทำลายต้องชัดเจน และเก็บไว้อย่างครบถ้วน พร้อมระบุวันที่ที่ทำลายบนภาพถ่ายอย่างชัดเจน และถูกต้อง<br>
5. การเปลี่ยน/คืน สินค้ากับผู้ขาย
"CANCELLED" / การเปลี่ยนสินค้า
-
5.1 ทำการ Cancel เอกสาร ส่งคืนไปบริษัทคู่ค้า (Temp Save) ภายในวันที่เปลี่ยนสินค้า พร้อมจัดเก็บเอกสาร Charge Back ไว้อย่างครบถ้วน <br>Note: ในกรณีนำสินค้าส่งซ่อม จะต้องติดตามกลับภายใน 97 วัน พร้อมทั้งมี 1.สำเนาบัตรประชาชน 2. สำเนาบัตรพนักงานของบริษัทคู่ค้าหรือเอกสารรับรองจากบริษัทคู่ค้า หรือเอกสารการเป็นพนักงานของขนส่งที่ได้รับมอบหมาย ของผู้รับสินค้าซ่อมแนบติดไว้ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง<br> <br> <br> <br> <br> <br>5.2 ต้องมีลายเซ็นของ Vendor ผู้มาเปลี่ยนหรือรับซ่อมสินค้า บนเอกสาร Charge Back และสำเนาบัตรประชาชน หรือใบส่งซ่อมของ Vendor ผู้มาเปลี่ยนหรือรับซ่อมสินค้า และ Code LPS<br>
-
5.2 ต้องมีลายเซ็นของ Vendor ผู้มาเปลี่ยนหรือรับซ่อมสินค้า บนเอกสาร Charge Back และสำเนาบัตรประชาชน หรือใบส่งซ่อมของ Vendor ผู้มาเปลี่ยนหรือรับซ่อมสินค้า และ Code LPS
-
5.3 ต้องมีลายเซ็นและวันที่ของ TM.up แผนกนั้น ๆ บนเอกสาร Charge Back กรณีมารับสินค้ากลับหน้าร้าน และต้องเป็นวันเดียวกับวันที่ Cancel <br>
"CONFIRM" / การคืนสินค้า
-
5.4 ทำการ Confirm เอกสาร ส่งคืนไปบริษัทคู่ค้า (Transmitted to H/O) ภายในวันที่คืนสินค้า<br> Note : 1. รายการ และจำนวนสินค้าที่ทำการคืนถูกต้องตรงกัน โดยเปรียบเทียบจาก Charge Back, RTV Audit Report (ของสำนักงานใหญ่) และ Return to Warehouse/Supplier Report<br> 2. คีย์ Reference No. โดยระบุ "หมายเลขสาขาและวัน/เดือน/ปี" ให้ถูกต้อง และต้องตรงกับวันที่ create ในเอกสาร Charge Back<br> <br>
-
5.5 จัดเก็บเอกสารพร้อมลายเซ็นอย่างครบถ้วน ดังนี้ <br> 1. เอกสารส่งคืนไปบริษัทคู่ค้า (บันทึกชั่วคราว/Temp Save) พร้อมลายเซ็น TM แผนกผู้อนุมัติการทำคืน <br> 2. Charge Back จากระบบ Rams พร้อมลายเซ็น Vendor และ LPS Code <br> 3. เอกสารส่งคืนไปบริษัทคู่ค้า (ส่งผ่านไปสำนักงานใหญ่/Transmitted to HO) <br> 4. สำเนาบัตรประชาชน Vendor พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง <br> 5. สำเนาบัตรพนักงานของบริษัทคู่ค้าหรือเอกสารรับรองจากบริษัทคู่ค้า พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง หรือเอกสารการเป็นพนักงานของขนส่งที่ได้รับมอบหมาย <br> 6.หลักฐานอื่นๆ ในการทำคืน เช่น EPW, RTN <br>Note: <br>1. สำเนา ID Card หรือสำเนาใบขับขี่ ต้องไม่หมดอายุ <br>2. ลายเซ็น Vendor ต้องเหมือนกันระหว่าง Charge Back และเอกสารหลักฐานของผู้มารับสินค้าทุกฉบับ
-
5.6 กรณี Vendor ฝากทำลายสินค้าที่สาขาต้องมีสำเนา ID card ที่ลงลายมือ "ยินยอมให้ทำลายสินค้าที่สาขาได้" พร้อมระบุเลขที่ Charge Back ที่ให้ทำลาย และมีภาพถ่ายสินค้าฝากทำลาย (ทั้งก่อน และหลังทำลาย)
-
5.7 กรณีที่คู่ค้าไม่มารับหรือเปลี่ยนสินค้าภายใน 30 วัน และไม่ติดต่อมารับสินค้าคืนอีก ภายใน 7 วัน ให้สาขาทำลายสินค้าที่สาขาทันทีต่อหน้าหน้ากล้อง CCTV และต้องถ่ายรูปทั้งก่อนและหลังการทำลายสินค้า พร้อมระบุหมายเลข Charge Back และวันที่ของภาพถ่ายให้ครบถ้วน<br>Note: ต้องมีหนังสือชี้แจงจาก Vendor กรณีที่สาขาไม่ทำลายสินค้าตามเงื่อนไข<br>
-
ตรวจสอบจากกล้อง CCTV <br>5.8 พนักงานห้องเคลม และ Vendor ร่วมกันตรวจสอบสินค้าในการเปลี่ยน / คืนต่อหน้ากล้อง CCTV <br>Note: กรณีรับสินค้าส่งซ่อมคืน ต้องมี TM แผนกร่วมรับสินค้าต่อหน้า CCTV ทุกครั้ง <br> <br>